วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

หลักง่ายๆ สำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล อย่างแรกเลยคือเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ บ้านหรือห้องสไตล์มินิมอลจะเน้นการตกแต่งเท่าที่จำเป็น แต่ดูดีมีสไตล์ ตามปรัชญาแนวคิด ‘Less is More’ หรือน้อยแต่มากด้วยประโยชน์ เพราะฉะนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ก็จะเป็นแต่ของที่ essential หรือสำคัญต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น ในห้องรับแขกก็อาจจะมีแค่โซฟายาวสักหนึ่งตัว เก้าอี้ หรือโซฟา love seat โต๊ะกาแฟ ชั้นวางของแบบมินิมอลิสต์ (ที่ไม่ได้เป็นแบบมีชั้นอะไรเยอะแยะ) ทีวีหนึ่งเครื่อง แล้วก็อาจจะมีโป๊ะไฟสัก 1-2 อัน ส่วนห้องนอนก็จะเน้นไปที่เตียงแบบเรียบๆ โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะวางของข้างหัวเตียงและชั้นหนังสือ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นประโยชน์การใช้สอยที่สอดคล้องและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ที่พักอาศัยเป็นสำคัญ
พื้นผิวที่วางของดูสะอาด เรียบร้อย

อย่างที่บอกว่าบ้านสไตล์มินิมอลจะมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เพราะฉะนั้นตามชั้นวางของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ หรือ shelf ต่างๆก็จะมีการวางของที่น้อย อย่างมากก็แค่ 1-2 อย่างเท่านั้น ของกระจุกกระจิกนี่แทบไม่มีให้เห็น ส่วนถ้าเป็นพวกหนังสือ หรือนิตยสาร ก็จะมีการจัดวางอย่างมีระเบียบ เรียบร้อย ทุกอย่างเน้นความสบายตาเป็นหลัก

วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

ในการทำเบเกอรี่เราจะเห็นว่ามีการใช้น้ำตาลอยู่ไม่กี่ประเภท ซึ่งบางประเภทก็มีลักษณะหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน ผู้ที่เริ่มทำเบเกอรี่ใหม่ๆอาจจะยังสับสนใจ วันนี้ จะมาอธิบายเกี่ยวกับน้ำตาลประเภทต่างๆที่มักพบบ่อยในการทำเบเกอรี่ค่ะ ว่าลักษณะเป็นอย่างไร และเหมาะสำหรับใช้ทำอะไรบ้าง


น้ำตาลทรายขาว (granulated sugar, white sugar, sugar)
คือน้ำตาลทรายทั่วไปที่เรามีติดไว้ทุกบ้าน เหมาะสำหรับใช้โรยหน้าคุกกี้น้ำตาล ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล ผสมสีแต่งหน้าคัพเค้ก น้ำตาลชนิดนี้สามารถใช้ทำขนมอบได้ แต่จะละลายช้าหรือละลายไม่หมดทำให้ไม่ได้ขนมลักษณะดีตามที่ต้องการ กล่าวคือถ้าใช้น้ำตาลทรายที่หยาบจะผสมกับเนยได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะผลึกที่หยาบของน้ำตาลทรายจะละลายไม่หมดคงอยู่เป็นเม็ดผลึกของน้ำตาล และไม่สามารถละลายด้วยความร้อนของเตาอบ ทำให้น้ำตาลทรายที่อยู่ใกล้ผิวหน้าขนมเป็นจุดๆ ซึ่งหากต้องการใช้น้ำตาลทรายแทนน้ำตาลเบเกอรี่และน้ำตาลทรายป่นควรนำมาบดด้วยเครื่องบดอาหารเสียก่อน

น้ำตาลทรายป่น (Castor Sugar, Castor Suga,Fine Sugar)
คือน้ำตาลทรายที่มีเกล็ดละเอียดกว่าน้ำตาลทรายปกติ ช่วยในการผสมเนื้อเค้กหรือตีเข้ากับเนยได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับทำขนมอบ เพราะละลายได้ดีกว่า น้ำตาลทรายป่นจึงเหมาะและเป็นที่นิยมในการทำเบเกอร์รี่ แต่น้ำตาลแบบนี้จะแพงกว่าน้ำตาลทรายปกติ ซึ่งเราสามารถนำน้ำตาลทรายปกติมาป่นด้วยเครื่องบดอาหารแทนได้ แต่หากไม่มีเครื่องปั่น ไม่แนะนำว่าใช้ครกเด็ดขาด เพราะน้ำตาลจะได้กลิ่นแปลกๆ
วิธีการแก้ไขหากไม่มีน้ำตาลทรายป่น และไม่มีเครื่องบดอาหาร คุณสามารถใช้น้ำตาลทรายทั่วไปตีกับเนยเย็นที่หั่นเป็นก้อนเล็กๆ ได้เช่นกัน

น้ำตาลไอซิ่ง (Icing Sugar / Powdered Sugar /
Confectioner’s Sugar)
น้ำตาลไอซิ่งหรือน้ำตาลตกแต่งหน้าเค้กจะมีรสหวานน้อยกว่าน้ำตาลป่น และมีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด หรือแป้งมันอยู่ในน้ำตาลชนิดนี้ด้วยเล็กน้อย นิยมใช้น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า หรือแต่งหน้าขนมต่าง ๆ หรือใช้ในการทำคุ้กกี้ที่ต้องการเนื้อคุ้กกี้แบบกรอบร่วน หากใช้น้ำตาลไอซิ่งแทนน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายป่น จะทำให้ได้เนื้อเค้กที่ทั้งเหนียวและหนัก เนื่องจากมีแป้งในส่วนผสมมากเกินไป

น้ำตาลทรายแดง (Yellow or Brown Sugar)
น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลดิบ ได้จากน้ำอ้อยตอนแยกกากน้ำตาล แต่ยังไม่ได้ผ่านการทำให้บริสุทธิ์ เลยมีความชื้นสูง มีกลิ่นหอม ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพิเศษของน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายแดงบางชนิดก่อนนำมาใช้ต้องนำมาร่อนก่อน นิยมใช้ในการทำเบเกอรี่ที่ต้องการกลิ่น รส และสีของน้ำตาลทรายแดง วิธีการตวงก็ต่างกันกับน้ำตาลทรายขาว ตรงที่เวลาตักใส่ถ้วยตวงเราต้องใช้สปาตูล่ากดอัดเบาๆแล้วค่อยปาดส่วนเกินออก

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

 เกิดการแย่งลูกค้ากันระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง สำหรับองค์กรรถเช่าเชียงใหม่ จะพบปัญหานี้บ่อยมาก  รถเช่าเชียงใหม่ที่ทำตามกฎ มักจะถูกเอาเปรียบจากรถแดง รถ 3 ล้อ รถแท็กซี่ ที่ไม่มีคิวหรือสังกัด กลุ่มเหล่านี้จะขับวนไปยังรอบเมืองหรือรอดักลูกค้าตัดหน้าคิวรถเป็นต้น  เหตุผลที่รถแดง รถ 3 ล้อ รถแท็กซี่ ที่ไม่มีคิวหรือสังกัด แย่งลูกค้าก็เพราะ ไม่อยากจะเสียค่าคิว นั้นเอง

    ลูกค้าจองรถแล้วไม่มาตามนัด หลายครั้งลูกค้าตกลงเช่ารถแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาตามนัด จนทำให้ผู้ประกอบการเสียเวลา เสียค่าน้ำมัน โดยใช่เหตุ  ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก ยิ่งเป็นชาวต่างชาติชาวจีน

    ซึ่งปัญหารถเช่าเชียงใหม่เหล่านี้ ก็จะมีการแก้ไขจากองค์กรที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ จน ณ ปัจจุบันก็มีปัญหาเหล่านี้ก็ลดน้อยลงบ้างแล้ว
    วิ่งทับเส้นทางกัน

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองนั้น นับเป็นเป้าหมายในชีวิตอย่างหนึ่งที่หลายคนฝันเอาไว้ และหนึ่งในธุรกิจที่ดึงดูดและน่าสนใจอย่างธุรกิจเสื้อยืดนั้น ก็มีแนวโน้มที่หลายคนสนใจอยากลองมาลงทุนทำธุรกิจ แต่มันต้องมีปัจจัยอะไรบ้างนะถึงจะทำธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จ? ต้องเตรียมตัวยังไงดี? หลายคำถามที่คุณอาจติดอยู่ในหัวเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ข้อควรรู้ ก่อนเริ่มธุรกิจเสื้อยืด ที่เรานำมาฝากกันก่อนดีกว่า อาจทำให้คุณเห็นภาพธุรกิจนี้ในอนาคตของคุณได้ชัดเจนขึ้น

1. ค้นหาข้อมูล

ต้องแน่ใจก่อนว่าเรามีความรู้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้ามากพอที่เราจะลงทุนแข่งขันในตลาดนี้ พยายามค้นหาความรู้ และทำความเข้าใจก่อนว่า ในวงการนี้มีรูปแบบการทำงานแบบไหน ลองอ่านบทความหรือหนังสือเกี่ยวกับแบรนด์เสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จเผื่อเป็นแนวทางในการทำการตลาดของเราในอนาคตด้วย

2. วางแผนการทำงานทุกอย่าง

ก่อนที่เราจะเริ่มทำธุรกิจนี้ ต้องมีความคิดและไอเดียที่ชัดเจนในสิ่งที่เราจะทำก่อน พยายามคิดและตัดสินใจดูว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่เราจะขายกลุ่มลูกค้าของเราคือใคร สินค้าของเราจะมีขายออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย หรือ บนเว็บไซต์ขายของ หรือ ขายเฉพาะหน้าร้านของเราจริงๆเท่านั้น วางแผนการทำการตลาดในแบบที่สามารถทำได้เองและที่ต้องเสียเงินในการโปรโมตไปยังกลุ่มลูกค้าของเราไว้ด้วย ควรสร้างแผนการตลาดบนความเป็นจริงและยึดเป็นแนวทางในการปฎิบัติ สำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้น ค้นหาจุดเด่นว่าแบรนด์ของเราคืออะไร ตั้งเป้าหมาย ภารกิจ วัตถุประสงค์ แผนการตลาด รวมถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาวเอาไว้

3. รู้เขารู้เรา

ธุรกิจทุกอย่างย่อมมีผู้แข่งขันในตลาด รวมทั้งธุรกิจเสื้อยืด หากเราตั้งใจจะสร้างแบรนด์เสื้อโดยมีจุดเด่นที่ความกวนๆ หรือเรียกอารมณ์ขันจากลูกค้า เราก็ควรศึกษาดูว่าแบรนด์อื่นๆ ในแนวเดียวกันนั้น เค้ามีแนวทางการตลาดกันอย่างไร มีดีไซน์หลากหลายแค่ไหน ราคา หรือโปรโมชั่นที่ดึงดูดมากน้อยต่างกันอย่างไร เพราะนั่นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียในการวางแผนกลยุทธในการทำธุรกิจนี้ตามไปด้วย ซึ่งในยุคนี้การติดตามความเป็นไปของคู่แข่งทำได้ไม่ยาก เพียงแค่อ่านข่าวสารที่แต่ละแบรนด์นำเสนอ หรือเพียงลงทะเบียนติดตามข่าวสารล่าสุด เท่านั้นก็มีข้อมูลหลากหลายทางมาให้เราศึกษาและวิเคราะห์การตลาดได้แล้ว

4. สร้างสินค้าที่ลูกค้าเห็นแล้วอยากที่จะซื้อมันจริงๆ

ดูเหมือนเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจก็ต้องรู้อยู่แล้ว แต่เราจะได้อะไรที่ชวนแปลกใจเสมอแน่ๆ เพียงเปิดรับความคิดเห็นจากกลุ่มลูกค้าของเราและนำมันมาปรับปรุงแก้ไขให้สินค้าเราตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะยิ่งทำให้มีโอกาสในการสร้างสินค้าที่เป็นที่ต้องการอย่างแท้จริง

5. รู้ต้นทุน

เมื่อเราวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว ต่อไปที่เราต้องรู้คือต้นทุนค่าใช้จ่าย เปรียบเทียบราคาจากใบเสนอราคาของแต่ละที่ที่รับผลิตเสื้อยืดหรือรับสกรีนเสื้อยืด แล้วเลือกทำกับสถานที่ที่เราคิดว่าเหมาะสม ได้งานคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล ราคาสั่งทำทั้งป้าย Label , ป้าย Tag อะไรก็ตามที่เราจำเป็นต้องใช้ในการผลิตสินค้า อย่าลืมต้นทุนค่าขนส่ง ค่าจัดส่ง กล่อง แพ็คเกจ ที่เก็บสินค้า หากจำเป็นต้องมี สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้เราคำนวณค่าใช้จ่ายในการผลิตออกมาได้อย่างชัดเจน และเป็นประโยชน์ในการตั้งราคาสินค้าที่เหมาะสมด้วย

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การจัดแต่งสวนกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านจัดสรรในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง เวลาที่มีจำกัด ทำให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะหญ้าเทียม เพราะไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากเหมือนกับการปลูกหญ้าทั่วไป เพราะสังคมปัจจุบัน ด้วยเวลาที่มีจำกัด และเร่งรีบการดูแลต้นไม้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

       สำหรับตลาดหญ้าเทียม ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเกิดขึ้นของสนามฟุตบอลในร่ม เพราะสนามฟุตบอลเหล่านั้น เลือกใช้สนามหญ้าเทียม เพราะดูแลรักษาง่าย แม้ราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับการดูแลรักษา และการใช้งานคุ้มกว่า การใช้หญ้าจริง เจ้าของสนามฟุตบอลในร่มจึงหันมาใช้หญ้าเทียมกันเกือบทุกสนาม และความนิยมก็ได้แพร่กระจายไปยังกลุ่มบ้านจัดสรร และการจัดงานสถานที่ งานอีเว้นท์ ต่างๆ ก็เลือกใช้สนามหญ้าเทียมด้วยกันทั้งนั้น

       ทั้งนี้ จึงได้มีผู้สนใจหันมาทำธุรกิจหญ้าเทียมกันเป็นอยู่หลายราย ตลาดหญ้าเทียมในเมืองไทย มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหญ้าคุณภาพไฮเอนด์จากยุโรป หรือหญ้าสำหรับตกแต่งจากจีนที่คุณภาพลดลงมา ซึ่งจีนถือเป็นตลาดใหญ่ในการผลิตหญ้าเทียม รวมถึงประเทศไทยเองก็มีผู้ผลิตด้วยเช่นกัน

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การเรียนภาษาอังกฤษ ขอนแก่นอาจเป็นเรื่องยุ่งยากแต่ก็มีประโยชน์มากมาย เช่นเดียวกับงานที่ท้าทายอื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกอยากจะเลิกเรียนได้ง่ายๆ แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งหยุดกลางคัน ต่อไปนี้คือ 5 เหตุผลที่ไม่ควรหยุดเรียนภาษาอังกฤษ ขอนแก่น


1. คุณก้าวหน้าไปมากแล้ว

เมื่อไรที่คุณรู้สึกขาดความกระตือรือร้น ให้ดึงเอาความสำเร็จในอดีตมาเป็นแรงบันดาลใจ ลองเขียนสิ่งที่คุณสามารถทำได้มาเป็นข้อๆ คุณสามารถสั่งอาหารเป็นภาษษอังกฤษจากคาเฟ่ได้หรือไม่? คุณสามารถดำเนินการประชุมเป็นภาษาอังกฤษได้หรือไม่? ดูที่รายการเหล่านี้แล้วลองนึกดูว่า: ฉันอยากจะเสียความสามารถเหล่านี้ไปหรือไม่? คุณสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนี่จะช่วยเตือนว่าคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว


2. คุณจำเป็นต้องรักษาโมเมนตั้มให้มีการเคลื่อนไหวต่อไป

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า “ฉันจะพักการเรียนไว้ก่อนแล้วปีหน้าค่อยกลับมาเรียนต่อ” คุณคิดว่าในบรรดาคนเหล่านั้นจะมีสักกี่คนที่กลับมาเรียนจริงๆ? มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นแหละ เพราะพันธะทางครอบครัวและหน้าที่การงานจะเข้ามาแทนที่เวลาเรียนและจะกลายเป็นเรื่องยากที่จะแบ่งเวลากลับมาให้กับการเรียนอีกครั้งหนึ่ง ถ้าคุณได้เริ่มจนการเรียนกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรของคุณแล้วละก็ อย่ายอมเสียโมเมนตั้มนั้นไปเป็นอันขาด!


3. การรักษาระดับเป็นเรื่องยาก

การสูญเสียทักษะทางภาษานั้นเป็นไปได้ง่ายมาก เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ คือจะต้องมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การจะกลับมาอยู่ที่ระดับเดิมหลังจากหยุดพักไปนานนั้นต้องทำอะไรต่อมิอะไรมากมาย ไม่ต้องคิดไปไกลถึงการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมเลย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยรักษาทักษะต่างๆ ของคุณเอาไว้ได้และยังเป็นการพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้อีกด้วย


4. คุณพัฒนาไปมากกว่าที่คุณคิด

ยิ่งคุณสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณให้อยู่ในระดับสูงได้มากเท่าใดก็ยิ่งเป็นการง่ายที่คุณจะรู้สึกว่าภาษาของคุณพัฒนาช้าลง นั่นเป็นเพราะว่าคุณรู้สิ่งต่างๆ ในภาษาอังกฤษมากขึ้นและรู้ว่ายังมีสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้อีกมากมาย ลองบันทึกการพูดของคุณไว้แล้วเปิดฟังอีกครั้งหลังจากผ่านไปแล้วสองเดือนแล้วคุณจะเห็นว่าคุณพัฒนาไปมากเพียงใด หาสมุดบันทึกเพื่อบันทึกคะแนนในการสอบหรือความสำเร็จอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นว่าตัวเองก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อกลับมาดู


5. คุณจะไปถึงเป้าหมายของคุณแน่นอน

คุณอาจรู้สึกว่าเป้าหมายสูงสุดของคุณยังอยู่อีกยาวไกลแต่คุณจะสามารถคว้ามันได้อย่างแน่นอนถ้าเพียงแค่คุณยังคงเรียนต่อไป ในขณะที่คุณรู้สึกว่ายังไม่ถึงเป้าหมายก็ให้แบ่งเป้าหมายดังกล่าวออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ ทุกครั้งที่คุณทำเป้าหมายย่อยให้สำเร็จลงได้ มันก็จะทำให้คุณขยับเข้าไปใกล้เป้าหมายสูงสุดของคุณได้อีกระดับหนึ่ง

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เนื่องจากในปัจจุบันมีเครื่องสำอางที่อาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้วางจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงจัดทำชุดทดสอบเครื่องสำอางขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสารที่เป็นอันตรายและสามารถทราบวิธีการหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางเหล่านั้นที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้"

สำหรับชุดทดสอบเครื่องสำอางที่กรมได้วิจัยและพัฒนาขึ้น มีทั้งหมด 5 ชุดทดสอบ ประกอบด้วย "ชุดทดสอบไฮโดรควิโนนในครีมทาหน้า" เป็นชุดทดสอบเบื้องต้น สำหรับใช้ทดสอบสารห้ามใช้ไฮโดรควิโนนในครีมหรือโลชั่นประเภท สิว-ฝ้า-กันแดด "ชุดทดสอบปรอทแอมโมเนียในครีมทาหน้า" เป็นชุดทดสอบเบื้องต้น สำหรับทดสอบสารห้ามใช้ปรอทแอมโมเนียในครีมทาหน้า

"ชุดทดสอบเรทิโนอิกในเครื่องสำอาง" (กรดวิตามินเอ) เป็นชุดทดสอบเบื้องต้น สำหรับใช้ทดสอบสารห้ามใช้กรดเรทิโนอิก (กรดวิตามิน a) ในเครื่องสำอาง ประเภท ครีม หรือ โลชั่น สิว-ฝ้า-กันแดด "ชุดทดสอบเมทานอลในเชื้อเพลิงอุ่นสาร" เป็นชุดทดสอบเบื้องต้น สำหรับใช้ทดสอบเมทานอล ในแอลกอฮอล์แข็งที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการอุ่นอาหาร และ "ชุดทดสอบสารประกอบอาร์เซนิก" (ในผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก) เป็นชุดทดสอบเบื้องต้น ทดสอบสารประกอบอาร์เซนิก เช่น อาร์เซนิกไตรออกไซด์ (as203) ในผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก

Unordered List

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Popular Posts

Recent Posts

ส่วนที่เกี่ยวข้อง